- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
สวัสดีทุกคนอีกครั้งค่ะ ครั้งนี้ก็เป็นครั้งสุดท้ายแบบท้ายสุด ก่อนที่ฟาร์มของเราจะหยุดทำการลงไปพร้อม ๆ กับที่การเรียนวิชา App Jap Ling นี้จบลงไป คิดแล้วก็ค่อนข้างใจหายมากทีเดียว ดังนั้นสำหรับบล็อกสุดท้ายนี้ เราจะมาสรุปการเรียนวิชานี้กัน ว่าเราได้อะไรและประทับใจอะไรบ้าง
สิ่งที่ได้จากวิชา App Jp Ling
ในวิชานี้สำหรับเราคือเป็นการที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับภาษาศาสตร์ โดยที่ยึดภาษาญี่ปุ่นเป็นหลักในการเรียนตามชื่อวิชาเลยก็คือ ภาษาศาสตร์ภาษาญี่ปุ่นประยุกต์ ในการเรียนวิชานี้ นอกจากจะได้ความรู้ทางภาษาศาสตร์แล้ว ยังทำให้เราได้ใช้ฝึกใช้ภาษาญี่ปุ่นตามทฤษฎีที่เราเรียนมาด้วย ทั้งการรับ "Input" ทำ "Output" ในส่วนนี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้เราได้เรียนรู้ในฐานะผู้เรียนเท่านั้น แต่ยังทำให้เราได้เห็นในมุมมองของผู้สอนมากขึ้นด้วย เราคิดว่าเป็นประโยชน์อย่างมากในการเรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อเอาชีวิตรอดในเอกภาษาญี่ปุ่นของตัวเอง แถมยังได้แนวทางในการสอนภาษาเผื่อมีโอกาสได้สอนภาษาญี่ปุ่นในอนาคตด้วย
นอกจากทฤษฎีภาษาศาสตร์ ในวิชานี้เรายังได้เรียนเกี่ยวกับการใช้ภาษาอย่างชาญฉลาดด้วย หลาย ๆ เรื่องที่เรียนไม่ว่าจะเป็น コロケーション、外来語 หรือ 漢語 ต่างก็เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ปกติในการเรียนการใช้ภาษาญี่ปุ่นของเราทุกวันนี้ แต่ก่อนหน้านี้เราไม่เคยตระหนักได้ถึงมันมาก่อนเลย รู้ว่ามี แต่เวลาใช้หรือรับ input เข้ามาเรื่องพวกนี้กลับก็เป็นส่วนที่เราสังเกตุน้อยที่สุดมาตลอด พยายามแค่ที่จะเขียนให้ตรงตามความหมายที่เราจะสื่อไปเท่านั้น
พอได้มาเรียนแล้วนอกจากเราจะได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งาน ได้เห็นความสำคัญของมันมากขึ้น ก็ยังทำให้เราเพิ่มความระมัดระวังในการใช้มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะ コロケーション ก่อนหน้านี้เราใช้ไปโดยไม่ตระหนักมาก่อน พอได้มาเรียนรู้ว่าคอปัสใช้งานยังไง สะดวกในการตรวจสอบแค่ไหน ก็สำนึกได้และเช็ค コロケーション กับคอปัสมาตลอดเลย
อาจพูดได้ว่าการได้เรียนเรื่องการใช้ภาษาอย่างชาญฉลาดเป็นส่วนที่ทำให้เราสัมผัสถึงการพัฒนาของตัวเองได้มากที่สุด และเป็นส่วนที่เราชอบมากที่สุดเลยก็ว่าได้
อีกเรื่องที่เรารู้สึกว่าได้รับมากจากวิชานี้ก็คือ ความกล้าในการใช้ภาษา อันนี้นับว่าเป็นผลโดยตรงของการที่ได้เรียนเรื่องทฤษฎี Output เลย การเรียนเรื่องนี้ทำให้เราเห็นถึงประโยชน์ของการใช้ภาษาออกไป ว่าแม้จะติดขัดหรือยังไม่ถูกต้อง แต่ก็เป็นส่วนที่สำคัญที่จะทำให้เราพัฒนาได้ ทำให้เราได้รู้ด้วยว่าที่ผ่านมาอาจารย์แต่ละท่านได้มีส่วนช่วยพัฒนาเรามากขนาดไหน ทั้งทางตรงและทางอ้อม พอคิดแล้วเลยรู้สึกอุ่นใจและสบายใจที่จะพูดจะเขียนภาษาญี่ปุ่นออกไปมากขึ้นเลยล่ะค่ะ 55555
ความประทับใจ
ในส่วนของความประทับใจ วิชานี้อาจจะดูเนื้อหาเยอะกิจกรรมแยะ แต่ว่าพอได้เรียนได้ลงมือทำแล้วมันให้ภาพนี้เลยค่ะ
เนื้อหาที่ได้เรียนอัดแน่นดีมาก ชื่อคนอาจจะเรียนแล้วลืม แต่ความรู้เกี่ยวกับทฤษฎีต่าง ๆ การนำไปใช้ พอเราเข้าใจแล้ว มันจะติดอยู่กับเราไปนานเลย เหมือนอาจารย์เอามันไปผูกกับกิจกรรมที่ทำ พอนึกถึงกิจกรรมก็จะนึกถึงทฤษฎีขึ้นมาได้ การได้ทำกิจกรรมแบบนี้เหมาะกับคนความจำไม่ดีอย่างเรามาก เช่น ที่อาจารย์ให้เล่าเรื่อง 「秘密」 แล้วดู Gap ของตัวเอง เราก็จำได้มาจนถึงตอนนี้ว่า Gap คือ "ช่องว่างระหว่างสิ่งที่เราอยากจะทำและสิ่งที่เราสามารถทำได้" อยู่ในทฤษฎี Output ที่คุณ Swain เสนอมา
อันที่จริงตอนนี้เราก็ยังพอจำชื่อคนเสนอทฤษฎีได้อยู่ แต่ไม่รู้จะจำได้นานแค่ไหน ที่จำได้แม่นที่สุดจริงๆ เลยคือคุณ ชอมสกี้ ที่ไม่ได้คิดทฤษฎีที่เราเรียนไปเลย แต่อาจารย์บอกว่าพี่โนชอบนักภาษาศาสตร์คนนี้้เฉยๆ 555555 อย่างน้อยเผื่อไปเจอในอนาคตเราก็จะยังจำได้อยู่ว่าเขาเป็นนักภาษาศาสตร์
นอกจากการทำกิจกรรมจะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในการเรียนแล้ว อีกอย่างที่ชอบคือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในวิชานี้ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ปลดล็อกอะไรบางอย่างของตัวเอง ทำแล้วรู้สึกดีกับตัวเอง โดยเฉพาะเวลาเขียนบล็อกแล้วต้องนำข้อมูลมาจากภายนอกที่เป็นภาษาญี่ปุ่น เป็นการบังคับตัวเองให้อ่านภาษาญี่ปุ่น แปลมันออกมา เรียบเรียงมันออกมา ในขั้นตอนนี้เรารู้สึกเหมือนเราได้ลงแรงไปเยอะทีเดียว พอเขียนแต่ละบล็อกเสร็จก็รู้สึกโล่งใจและภูมิใจในตัวเองขึ้นมา พลางนึกในใจไปด้วยว่า เราก็เก่งเหมือนกันนี่นา 555555 เป็นความรู้สึกที่ดีมากจริง ๆ ค่ะ
เราคิดว่าภาษาญี่ปุ่นของเราพัฒนาขึ้นบ้างหลังจากเรียนวิชานี้ อาจจะจากส่วนของการใช้ภาษาอย่างชาญฉลาดที่ทำให้เราระวังการใช้ภาษามากขึ้นในหลายจุด ส่วนอื่นหรือในภาพรวมอาจจะไม่ได้พัฒนาไปมากนัก (ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเพราะเราเองนี่ล่ะค่ะ 5555) แต่ก็เป็นวิชาที่ทำให้เราได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ หลายอย่างเลย เขียนบล็อกแล้วหนึ่ง 5555 ได้แปลเพลงที่ชอบ(และพบว่าการแปลเพลงมันยากจังเลยค่ะทุกคน T v T) ได้นั่งพินิจพิเคราะห์การใช้ภาษาของคนอื่นแล้วเหลียวกลับมามองของตัวเอง ได้อ่านได้คอมเมนท์บล็อกของเพื่อน ๆ ด้วย
ถ้าให้สรุปรวม ๆ ก็คือ
H A P P Y
สุดท้ายนี้ก็อยากจะขอบคุณทุกคนจริง ๆ ที่อยู่ด้วยกันกับเรามาจนถึงบล็อกสุดท้ายในวันนี้ ถ้ามีโอกาส(อันที่จริงให้เรียกว่าไฟและความขยัน) ในอนาคตก็อยากจะเขียนบล็อกอีก สนุกมาก ๆ เลย ไว้ถึงตอนนั้นพวกเราค่อยมาพบกันใหม่นะคะ สำหรับตอนนี้ขอลาไปก่อนค่ะะะ// ฝาก SEVENTEEN ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนอีกครั้งด้วยนะคะ เริ้บ <3
- รับลิงก์
- X
- อีเมล
- แอปอื่นๆ
ความคิดเห็น
Input Output นี่พระเอกของวิชานี้จีงๆ เชื่อว่าทุกคนจะจำไปอีกนาน555555
ตอบลบお疲れさまนะคับต้าวแครอท!
ชอบจริง Input Output ทุกวันนี้อะไรๆก็คราเชน อะไรๆก็สเวน 555555555 お疲れさま จร้าา
ตอบลบได้บล็อกคุมแครอทช่วยชีวิตไว้ตรอดเรยค่ะ ขอบคุณที่คอยสรุปเนื้อหาให้ตลอดเลยนะคะเตง คนง่อวๆอย่างพ้มรอดตายมามีวันนี้ได้เพราะสรุปของคุมแครอทช่วยชีวิส คิ้กค้าก
ตอบลบสรุปได้ดีจังเลย ที่ชอบสุด(ไม่เกี่ยวกับภาษาศาสตร์นะ) ที่บอกว่า พี่โนชอบชอมสกี้ เลยทำให้จำคนชื่อ ชอมสกี้ได้ 555 เขาเรียกว่า エピソード記憶 คือเอาไปผูกกับเรื่องราวแล้วเราจะจำได้ง่ายกว่า ดีใจจังค่ะทีทำให้หนูกล้าพูดและใช้ภาษาญี่ปุ่นมากขึ้น ไม่กลัวความผิดพลาด(เพราะถ้าไม่ผิดก็ไม่พัฒนา) รูปหัวสมองสี่ภาพ รูปสุดท้ายมีแสงออกมาหลังจากทำ タスク ดีมากเลย ขำ.... blog นี้ต้องอ่านคู่กับ ของ radish garden ใช่ไหมคะ จะได้ภาพของเพลงที่น่ารักมาด้วย แปลเก่งมาก blog ก็น่ารักค่ะ เรียนญี่ปุ่นแบบ Happy ต่อไปนะคะ
ตอบลบขอบคุณอาจารย์มากๆเลยนะคะ ที่ทำให้วิชานี้สนุกและเรียนได้มีความสุขขนาดนี้ ❤️❤️❤️
ลบ